Skip to content

งานสกรีน

295410002_5300591246722645_1383947544974110106_n
295046340_5300591316722638_5942101742035873538_n
294593426_5292758514172585_200519947791919055_n
461868531_1033399922126311_8686165342736570146_n
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

การสกรีนเสื้อ คือ กระบวนการพิมพ์ลวดลายลงบนเสื้อผ้าเพื่อให้เกิดลายหรือข้อความตามที่ต้องการ โดยสามารถใช้ได้ทั้งในงานแฟชั่น เสื้อทีม เสื้อองค์กร หรือเสื้อแบรนด์ต่าง ๆ

เทคนิคการสกรีนเสื้อยอดนิยม

  1. ซิลค์สกรีน (Silk Screen)
    • ใช้บล็อกสกรีนและหมึกพิมพ์ลงบนผ้า
    • เหมาะกับงานจำนวนมาก เพราะต้นทุนต่อชิ้นถูก
    • สีสด ทนทาน ซักแล้วไม่หลุดลอกง่าย
  2. DTF (Direct to Film)
    • พิมพ์ลายลงบนฟิล์มแล้วรีดลงบนเสื้อ
    • ละเอียด คมชัด สีสดใส เหมาะกับงานที่มีหลายสี
    • ทนต่อการซักและยืดหยุ่นดี
  3. DTG (Direct to Garment)
    • ใช้เครื่องพิมพ์พ่นหมึกลงบนผ้าโดยตรง
    • เหมาะกับงานจำนวนน้อย หรือทำเสื้อลายซับซ้อน
    • สีติดเส้นใยผ้า ทำให้มีเนื้อสัมผัสนุ่ม
  4. เฟล็กซ์ (Flex Print)
    • ใช้วัสดุไวนิลแล้วตัดเป็นรูปแล้วรีดติดเสื้อ
    • เนื้อสัมผัสนูนเล็กน้อย คมชัดมาก
    • นิยมใช้กับเสื้อกีฬา หรือเสื้อที่ต้องการความเงางาม
  5. สกรีนฮีตทรานเฟอร์ (Heat Transfer)
    • พิมพ์ลายลงกระดาษทรานเฟอร์ แล้วใช้ความร้อนรีดติดเสื้อ
    • เหมาะกับงานจำนวนน้อย ต้นทุนไม่สูง
    • อายุการใช้งานอาจไม่ทนเท่าซิลค์สกรีนหรือ DTF

การเลือกวิธีสกรีนให้เหมาะกับงาน

✅ ถ้าทำเยอะ → ซิลค์สกรีน (ถูกและทน)
✅ ถ้ามีลายซับซ้อน/ต้องการสีสด → DTF หรือ DTG
✅ ถ้าเน้นงานเงางาม/ชื่อเบอร์เสื้อกีฬา → เฟล็กซ์
✅ ถ้าต้องการงานด่วน ต้นทุนต่ำ → ฮีตทรานเฟอร์

การสกรีนเสื้อแบบ DTF (Direct to Film) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะให้สีสวยสด คมชัด และติดแน่นบนผ้าได้หลากหลายชนิด

ขั้นตอนการสกรีน DTF

  1. ออกแบบลาย → ใช้โปรแกรม เช่น Photoshop หรือ Illustrator
  2. พิมพ์ลงฟิล์มพิเศษ (DTF Film) → ใช้หมึกพิมพ์เฉพาะที่สามารถถ่ายเทความร้อนได้
  3. โรยผงกาว (DTF Powder) → เพื่อช่วยให้ลายยึดติดกับเสื้อ
  4. อบให้กาวละลาย → ใช้เครื่องอบหรือฮีตกันเพื่อให้กาวติดแน่น
  5. รีดร้อน (Heat Press) → วางฟิล์มบนเสื้อแล้วกดด้วยเครื่องฮีตเพรสที่อุณหภูมิประมาณ 160-170°C
  6. ลอกฟิล์มออก → ได้ลายที่ติดทนและสีสดใส

ข้อดีของการสกรีน DTF

✅ พิมพ์ลายได้ละเอียด คมชัด สีสดใส
✅ ติดได้กับผ้าทุกชนิด (Cotton, Polyester, ผ้าผสม ฯลฯ)
✅ ทนต่อการซัก ไม่หลุดลอกง่าย
✅ เหมาะกับงานที่มีหลายสีหรือ Gradient
✅ ทำจำนวนน้อยได้ ไม่ต้องใช้บล็อกเหมือนซิลค์สกรีน

ข้อเสียของการสกรีน DTF

❌ ต้นทุนต่อชิ้นสูงกว่าซิลค์สกรีน (แต่เหมาะกับงานจำนวนน้อย)
❌ เนื้อสัมผัสอาจมีความหนากว่าการพิมพ์ DTG

การสกรีนซับลิเมชั่น (Sublimation Printing) เป็นเทคนิคการพิมพ์ลายลงบนเสื้อหรือวัสดุที่มีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ (Polyester) โดยใช้ความร้อนสูง ทำให้หมึกระเหิดและซึมเข้าไปในเนื้อผ้า


ขั้นตอนการสกรีนซับลิเมชั่น

1️⃣ ออกแบบลาย → ใช้โปรแกรม เช่น Photoshop หรือ Illustrator
2️⃣ พิมพ์ลงกระดาษซับลิเมชั่น → ใช้หมึกซับลิเมชั่นพิเศษ
3️⃣ วางกระดาษบนผ้าโพลีเอสเตอร์ → ต้องเป็นผ้าสีขาวหรือสีอ่อน
4️⃣ ใช้เครื่องฮีตเพรสกดความร้อน → อุณหภูมิประมาณ 180-200°C ประมาณ 30-60 วินาที
5️⃣ หมึกระเหิดเข้าสู่เนื้อผ้า → ได้ลายที่คมชัดและติดทนถาวร


ข้อดีของการสกรีนซับลิเมชั่น

✅ สีสันสดใส คมชัด และซึมเข้าผ้า ทำให้ไม่รู้สึกหนาหรือเหนียว
✅ ติดทนนาน ไม่หลุดลอก แม้ผ่านการซักบ่อย
✅ สามารถพิมพ์ลายแบบไล่สี (Gradient) ได้ดี
✅ ใช้ได้กับวัสดุอื่นๆ เช่น แก้ว หมวก แผ่นรองเมาส์


ข้อเสียของการสกรีนซับลิเมชั่น

❌ ใช้ได้เฉพาะ ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือวัสดุที่เคลือบโพลีเอสเตอร์
❌ เหมาะกับ เสื้อสีอ่อนหรือสีขาวเท่านั้น
❌ ไม่สามารถพิมพ์ลงบนผ้าคอตตอน 100% ได้ (หมึกจะไม่ซึมเข้าไป)


ซับลิเมชั่นเหมาะกับงานแบบไหน?

✔ เสื้อกีฬา, เสื้อวิ่ง, เสื้อพนักงาน
✔ เสื้อแฟชั่นที่ต้องการสีสด คมชัด
✔ งานพิมพ์แก้ว, หมวก, แผ่นรองเมาส์ ฯลฯ